Sunday, 24 August 2008

ประเทศฝรั่งเศส - พระราชวังแวร์ซายส์










จากโลกตะวันออก ผมขอพาทุกๆคน มาสู่โลกตะวันตกบ้างครับ โดยเราจะมาที่ยุโรป ที่ตั้งของเหล่าประเทศต่างๆ ที่เคยเป็นมหาอำนาจอันทรงอิทธิพลของโลก แม้ในปัจจุบัน ยุโรปจะไม่ได้เป็นผู้นำของโลกแล้ว แต่อำนาจและความมั่งคั่งในอดีตของยุโรป และความหลากหลายทางวัฒนธรรมในทวีปนี้ ทำให้ยุโรป ยังเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยมรดกทางประวัติศาสตร์อันทรงคุณค่ามากมาย เป็นอนุสรณ์ที่ความยิ่งใหญ่ในอดีตให้รำลึกถึงได้ โดยเฉพาะประเทศฝรั่งเศส ที่ไม่เพียงแต่จะเป็นมหาอำนาจของโลกมาในอดีต แต่ศิลปวัฒนธรรมฝรั่งเศสยังมีสีสัน น่าสนใจ น่าค้นหา

ดังนั้น ในวันนี้ ผม ในฐานะนักเรียนศิลป์ - ฝรั่งเศส ขอนำผู้อ่านทุกท่าน มาเยี่ยมชม สถานที่อันถือได้ว่า เป็นที่หนึ่งของเหล่าพระราชวังในยุโรปครับ

===============================================
ชื่อในภาษาท้องถิ่น : ชาโตว์ เดอ แวร์ซายส์ (Château de Versailles)
ที่ตั้ง : ชานกรุงปารีส, สาธารณรัฐฝรั่งเศส
สร้างเสร็จสมบูรณ์เมื่อ : พ.ศ.2225 (ค.ศ. 1682)
สร้างโดย : พระเจ้าหลุยส์ที่ 14
ผู้ประทับ ณ พระราชวังนี้ : กษัตริย์ราชวงศ์บูร์บอง 3 พระองค์ คือพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ถึง 16
สถานะปัจจุบัน : พิพิธภัณฑ์และพระราชวัง
เป็นมรดกโลกหรือไม่ : ใช่
===============================================


พระราชวังแวร์ซายส์ ตั้งอยู่ในเมืองแวร์ซายส์ ใกล้กับกรุงปารีส เมืองหลวงของประเทศฝรั่งเศสครับ โดยบริเวณแวร์ซายส์ แต่เดิมเป็นเพียงหมู่บ้านชนบทเล็กๆ เป็นที่ตั้งของตำหนักล่าสัตว์ ของพระเจ้าหลุยส์ที่ 13 ต่อมา เมื่อพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ขึ้นครองราชบัลลังก์ฝรั่งเศส พระองค์เบื่อหน่ายความวุ่นวายของเมืองหลวง ที่เต็มไปด้วยการแก่งแย่งอำนาจของชนชั้นสูง พระองค์ต้องการหาสถานที่ที่พระองค์จะสามารถใช้ในการควบคุมอำนาจทั้งหมดไว้ได้อย่างเด็ดขาด ดังนั้น พระองค์จึงได้มีพระบรมราชโองการให้สร้างพระราชวังใหม่ขึ้นให้ห่างจากปารีส ซึ่งคือที่นี่ พระราชวังแวร์ซายส์ จึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ของ และความหรูหราฟุ้งเฟ้อของราชสำนักยุโรป

แต่หลังจากการปฏิวัติฝรั่งเศส สู่ระบบสาธารณรัฐ ก็ไม่มีผู้อยู่อาศัยที่พระราชวังแวร์ซายส์อย่างถาวร แม้ระบอบจักรพรรดิและระบอบกษัตริย์ จะถูกสถาปนาอีกหลายครั้งในฝรั่งเศส แต่ก็ไม่เคยการใช้พระราชวังแวร์ซายส์เป็นที่ประทับของกษัตริย์อีกเลย ในปัจจุบัน พระราชวังแวร์ซายส์ เป็นทั้งสถานที่ท่องเที่ยวชั้นนำ พิพิธภัณฑ์ และสถานที่ราชการของรัฐบาลฝรั่งเศสด้วย และอย่างคงความหรูหรา ยิ่งใหญ่ เหมือนในอดีตไว้อย่างสมบูรณ์

จุดเด่นๆในพระราชวังแวร์ซายส์

ห้องกระจก (Galerie des glaces)
ห้องที่มีชื่อเสียงที่สุดของพระราชวัง ประกอบด้วยกระจกขนาดยักษ์ เกือบ 20 บาน ห้องกระจกยังเป็นสถานที่ที่ใช้รับทูตจากสยาม คณะของโกษาปาน ในรัชสมัยของสมเด็จพระนารายณ์มหาราชด้วย










ห้องชุดแห่งกษัตริย์ (Appartement du roi)
คือส่วนที่อยู่ส่วนพระองค์ของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 และที่ทรงงานของพระเจ้าหลุยส์ที่ 15 และ 16












โรงโอเปร่าหลวงแห่งพระราชวังแวร์ซายส์ (Opéra royal du château de Versailles)
คือโรงละครและโรงโอเปร่าหลักของพระราชวังแวร์ซายส์









อีกจุดที่น่าชมในเขตพระราชวังแวร์ซายส์ คือสวนแห่งพระราชวังแวร์ซายส์ ที่ตกแต่งได้งดงามเป็นเอกลักษณ์ เป็นแบบอย่างให้สวนอื่นๆ ทั่วโลก และมีน้ำพุนับไม่ถ้วน ที่ทำงานภายใต้ระบบซับซ้อน กินพื้นที่กว่า 8 ตารางกิโลเมตร

Sunday, 17 August 2008

ประเทศจีน - นครต้องห้าม














ถัดมาจากประเทศไทย ผมขอพาทุกท่านมายังเมืองที่ในตอนนี้กำลังเป็นที่จับตาจากผู้คนทั่วโลก เนื่องจากกำลังเป็นเจ้าภาพมหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติ คือกีฬาโอลิมปิคฤดูร้อนครั้งที่ 29 ปักกิ่ง 2008 ประเทศจีนถือเป็นเจ้าแห่งอารยธรรมตะวันออก มีประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ และวัฒนธรรมที่งดงาม สถานที่ต่อไปนี้ เป็นอีกหนึ่งหลักฐาน ถึงความยิ่งใหญ่ของอารยธรรมจีนครับ

===================================================

ชื่อในภาษาท้องถิ่น : จื่อจินเฉิง (เมืองต้องห้ามสีม่วง) และกู้กง (พระราชวังเดิม)
ที่ตั้ง : กรุงปักกิ่ง, สาธารณรัฐประชาชนจีน
สร้างเสร็จสมบูรณ์เมื่อ : พ.ศ.1963 (ค.ศ. 1420)
สร้างโดย : จักรพรรดิหย่งเล่อ
ผู้ประทับ ณ พระราชวังนี้ : ฮ่องเต้ราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิง
พื้นที่ : 720,000 คารางเมตร
สถานะปัจจุบัน : พิพิธภัณฑ์
เป็นมรดกโลกหรือไม่ : ใช่

===================================================

เหล่าอาคารแห่งนครต้องห้าม ตั้งอยู่กรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของประเทศจีนครับ โดยอยู่ในศูนย์กลางของเขตแห่งฮ่องเต้ในตัวเมืองปักกิ่ง โดยตั้งอยู่ตามแนวแกนเหนือ-ใต้ผ่ากลางเมือง เป็นพื้นที่สี่เหลี่ยมผืนผ้าที่มีกำแพงและคูน้ำล้อมรอบ มีอาคารต่างๆเหลืออยู่เกือบ 1,000 อาคาร เลยครับ

จักรพรรดิหย่งเล่อแห่งราชวงศ์หมิง ได้ทรงมีพระบรมราชโองการให้สร้างนครต้องห้ามขึ้น พร้อมกับการที่พระองค์ทรงบูรณะปฏิสังขรณ์ และสถาปนากรุงปักกิ่งให้เป็นราชธานีของจักรวรรดิของพระองค์ หลังจากที่กรุงปักกิ่งได้ถูกเปลี่ยนมือจากราชวงศ์จิน ไปสู่พวกข่านแห่งมองโกลราชวงศ์หยวน และกลับมาสู่ชาวจีนฮั่นในยุคหมิง แม้นครต้องห้ามจะประสบกับภัยต่างๆ เช่นฟ้าผ่า ไฟไหม้ รวมถึงการปล้นสะดมและการถูกทิ้งร้างในอดีต แต่ปัจจุบันรครต้องห้ามก็ยังคงความยิ่งใหญ่อลังการ น่าตระการตาไว้ได้อย่างสมบูรณ์

จุดเด่นๆภายในนครต้องห้าม

หอแห่งสันติสุขสูงสุด (Hall of Supreme Harmony)

เป็นหอที่ใหญ่ที่สุดในนครต้องห้าม ตั้งอยู่ในเขตพระราชฐานส่วนนอก ใช้ประกอบพระราชพิธีของฮ่องเต้













วังแห่งความบริสุทธิ์แห่งสวรรค์ (Palace of Heavenly Purity)
อยู่ในเขตพระราชฐานส่วนใน เคยเป็นที่ประทับของฮ่องเต้ ต่อมาถูกเปลี่ยนเป็นท้องพระโรง










ประตูแห่งศูนย์กลางจักรวาล(Meridian Gate)

คือทางเข้าใหญ่ที่สุดของนครต้องห้าม ตั้งอยู่ทางทิศใต้ มีทั้งหมด 5 ทางเข้า








อีกจุดที่น่าสนใจในบริเวณนครต้องห้าม คือจัตุรัสเทียนอันเหมิน ซึ่งด้านหนึ่งของจัตุรัสคือประตูเทียนอันเหมินเข้าสู่เขตของฮ่องเต้ จัตุรัสเทียนอันเหมินเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของประเทศจีน และมีความสำคัญอย่างมากทางประวัติศาสตร์






Saturday, 16 August 2008

ประเทศไทย - พระบรมมหาราชวัง





ถ้าผมเริ่มบล็อกวังของผมจากบ้านเรา ก่อนออกไปชมวังต่างประเทศ คงไม่ใช่เรื่องแปลกใช่มั้ยครับ ถือเป็นการทำหน้าที่เป็นคนไทยไปในตัวด้วย พระราชวังแห่งแรกที่ผมจะมานำเสนอนี้ คือพระบรมมหาราชวัง แห่งราชอาณาจักรไทยครับ

พระบรมมหาราชวัง ตั้งอยู่ที่กรุงเทพมหานคร เมืองหลวงของประเทศไทยครับ

============================================

ชื่อในภาษาท้องถิ่น : พระบรมมหาราชวัง
ที่ตั้ง : กรุงเทพมหานคร, ราชอาณาจักรไทย
สร้างเสร็จสมบูรณ์เมื่อ : พ.ศ. 2328 (ค.ศ. 1785)
สร้างโดย : พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช (รัชกาลที่ 1)
ผู้ประทับ ณ พระราชวังนี้ : กษัตริย์ราชวงศ์จักรี
พื้นที่ : 0.22 ตารางกิโลเมตร
สถานะปัจจุบัน : พระราชวัง แต่ไม่มีกษัตริย์ประทับอยู่
เป็นมรดกโลกหรือไม่ : ไม่

=============================================

พระบรมมหาราชวัง ตั้งอยู่ที่กรุงเทพมหานคร เมืองหลวงของประเทศไทยของเราครับ โดยตั้งอยู่ในศูนย์กลางของเขตกรุงรัตนโกสินทร์ ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา มีอายุประมาณ 230 ปี โดยรัชกาลที่ 1 โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้น เมื่อทรงย้ายราชธานี การก่อสร้างพระบรมมหาราชวัง เริ่มขึ้นพร้อมกับการสร้างพระนครเมื่อ พ.ศ.2325 ครับ

พระบรมมหาราชวังใช้เป็นสถานที่ประกอบพระราชพิธีสำคัญต่าง ๆ ตามพระราชประเพณี เป็นที่รับแขกเมือง และพระราชอาคันตุกะ รวมทั้งเป็นที่ตั้งพระบรมศพและพระศพของพระบรมวงศานุวงศ์ชั้นสูง

แม้พระบรมมหาราชวัง อาจถือว่ามีขนาดที่ไม่ใหญ่มากนัก แต่ก็มีความวิจิตรงดงาม โดยจุดสำคัญๆ ภายในพระบรมมหาราชวัง คือ

พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท - สร้างขึ้นในสมัย ร.5 โดยใช้เป็นสถานที่รับรองพระราชอาคันตุกะมีความสวยงามด้วยการผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างสถาปัตยกรรมไทย-ยุโรป โดยองค์พระที่นั่งเป็นแบบยุโรป หลังคาเป็นยอดปราสาทไทย สมกับที่กล่าวว่า เป็น "ฝรั่งใส่ชฎา"ครับ


พระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน - เป็นพระที่นั่งประธานของหมู่พระมหามณเฑียรโดยพระมหากษัตริย์ในรัชกาลต้น จะทรงประทับ ณ พระที่นั่งองค์นี้เป็นส่วนใหญ่

พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท - เป็นปราสาทจตุมุข สร้างในสมัย ร.1 ภายในมีพระแท่นราชบัลลังก์ระดับมุกและพระแท่นราชบรรจถรณ์ พระแท่นบรรทมของ ร.1



พระที่นั่งบรมพิมาน - ในหลวง ร.8 ได้เสด็จประทับเมื่อครั้งเสด็จนิวัติพระนคร และได้เสด็จสวรรคตอย่างกะทันหัน ณ พระที่นั่งองค์นี้ ในหลวง ร.9 โปรดเกล้า ฯ ให้ซ่อมแซมและต่อเติม ใช้เป็นที่ประทับและพักรับรองพระราชอาคันตุกะชั้นสูงของต่างประเทศ

อีกส่วนหนึ่งของพระบรมมหาราชวัง ที่อาจถือได้ว่า เป็นสถานที่ที่มีความสำคัญที่สุดต่อชาวไทยทั้งมวล เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวไทย คือวัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้ว ที่โด่งดังไปทั่วโลก วัดพระแก้วเป็นวัดสำหรับพระมหากษัตริย์ เป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร หรือพระแก้วมรกต พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองชาวไทย วัดพระแก้ว มีมุมต่างๆ ที่วิจิตร น่าตระการตามากมาย

Friday, 15 August 2008

Majesty of the Past

ความงดงามและยิ่งใหญ่ ที่ผ่านกาลเวลามาถึงปัจจุบัน

พระราชวัง คือที่อยู่ของพระมหากษัตริย์ของแต่ละประเทศ แม้ว่าตอนนี้ ประเทศต่างๆ ในโลก ส่วนใหญ่มิได้มีพระมหากษัตริย์เป็นผู้นำประเทศแล้ว แต่พระราชวังต่างๆ ที่มีอยู่ทั่วโลก ก็ยังเปรียบเหมือนหลักฐาน ที่แสดงให้เห็นอดีตอันยิ่งใหญ่ และน่าภาคภูมิใจของแต่ละประเทศ พระราชวังแต่ละแห่งเป็นเหมือนบันทึกของความเจริญทางวัฒนธรรม ที่ทำให้ชาวโลกได้เห็นถึงเอกลักษณ์ของชนชาติต่างๆ และการได้เห็นถึงเอกลักษณ์ของชาติต่างๆ ก็คงจะเป็นการสร้างความรู้ ความเข้าใจความแตกต่างของเพื่อนร่วมโลกของเรา และนำไปสู่ความปรองดองอย่างสันติในโลกของเราได้ (และนอกจากนั้น การได้ดูภาพของสถานที่หรูหรางดงามอลังการ จากต่างประเทศก็คงน่าเพลินไปอีกแบบแหละครับ :))

ผมจะอัพเดทบล็อกนี้ไปเรื่อยๆ นะครับ และด้านล่างนี่คือรายชื่อของพระราชวังต่างๆ ที่ผมจะนำข้อมูล และภาพต่างๆ มานำเสนอ โดยที่ผมเลือก คือพระราชวังจากเมืองไทยของเรา และสุดยอดพระราชวังจากอารยธรรมตะวันออก และตะวันตกครับ

ไทย - พระบรมมหาราชวัง
จีน - พระราชวังต้องห้าม
ฝรั่งเศส - พระราชวังแวร์ซายส์